รีวิวไซต์ก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง วงเงิน 88,014 ล้านบาท สารพัดปัญหารุม ทั้งปรับแบบเหตุสุดวิสัยทำให้ส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เซ็นสัญญาเริ่มงานตั้งแต่ปี 2561 การก่อสร้างหลุดเป้า ผู้รับเหมาดาหน้าขอต่อขยายเวลา 9 เดือน-20 เดือน เลื่อนปิดจ็อบงานไปเป็นปี 2565 ขณะที่รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,413 ล้านบาท ที่เริ่มลงมือมาตั้งแต่ 21 ธ.ค. 2560 มีงานโยธาก่อสร้าง 14 สัญญาล่าช้าไม่น้อยหน้ากัน มีปัญหาติดหล่มร้องเรียนประมูล ปรับแบบสถานีอยุธยากรณีกระทบมรดกโลกค่าเวนคืนที่ดินเพิ่ม ทำให้ยังเหลืออีก 6 สัญญาจากทั้งหมด 14 สัญญาที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง อาจทำให้ต้องขยับเปิดบริการจากเป้าปี 2570 ออกไปอีก
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จำนวน 5 เส้นทาง ระยะทางรวม 700 กม. ค่าก่อสร้างงานโยธา 76,591 ล้านบาท ค่างานติดตั้งระบบอาณัติสัญญา 3 เส้นทาง วงเงิน 11,423 ล้านบาท วงเงินรวม 88,014 ล้านบาท มีแววจะต้องขยับแผนเลื่อนเปิดหวูดเต็มรูปแบบในปี 2566 ออกไปหลังจากการก่อสร้างงานโยธา 5 เส้นทาง จำนวน 10 สัญญามีอุปสรรคในการก่อสร้างทุกเส้นทาง
สถานการณ์ก่อสร้าง 5 โครงการนั้นจะมี 10 สัญญา ประกอบด้วย สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กม. แบ่งงานเป็น 2 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 บ้านกลับ-โคกกระเทียม ระยะทาง 32 กม. ค่าก่อสร้าง 10,050 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-เอสเอช (ยูนิค/ชิโน-ไฮโดร) เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 15 มิ.ย. 2561-14 มิ.ย. 2565 (48 เดือน)
ณ เดือน พ.ย. 2564 ผลงานคืบหน้า 63.44% เร็วกว่าแผน 4.45%
สัญญาที่ 2 ท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. ค่าก่อสร้าง 8,649 ล้านบาท มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-31 ม.ค. 2564 (36 เดือน) มีการขยายสัญญาอีก 17 เดือน (ก.พ. 2564-ก.ค. 2565) ณ เดือน พ.ย. 2564 ผลงานคืบหน้า 70.33% ช้ากว่าแผน 13.73%
สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. แบ่งงานเป็น 3 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 มาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. ค่าก่อสร้าง 7,560 ล้านบาท มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-31 ม.ค. 2565 (48 เดือน) มีการขยายสัญญาอีก 309 วันจากเดิม ไปสิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. 2565 ผลงาน ณ เดือน พ.ย. 2564 คืบหน้า 92.29% ช้ากว่าแผน 7.39% เนื่องจากติดปัญหาพื้นที่ก่อสร้างอยู่ในเขตป่าไม้
สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 8 กิโลเมตร มีจำนวน 3 อุโมงค์ โดยอุโมงค์ที่ 1 ระยะทาง 5.85 กม. อุโมงค์ที่ 2 ระยะทาง 0.65 กม. อุโมงค์ที่ 3 ระยะทาง 1.40 กม. ค่าก่อสร้าง 9,290 ล้านบาท มี กิจการรวมค้า อิตาเลียนไทย ไรท์ทีนเนลลิ่ง (ITD-RT) เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงานวันที่ 1 ก.ค. 2561-30 ธ.ค. 2564 (42 เดือน) มีการขยายสัญญา 271 วัน ไปสิ้นสุดเดือน ก.ย. 2565 ผลงาน ณ เดือน พ.ย. 2564 คืบหน้า 89.139% เร็วกว่าแผน 0.13% มีปัญหางบประมาณเวนคืนไม่เพียงพอ
ส่วนสัญญาที่ 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กม. ค่าก่อสร้าง 7,060.58 ล้านบาท ออกแบบเสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติโครงการและพิจารณา EIA โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 42 เดือน ซึ่งงานก่อสร้างช่วงนี้ติดปัญหากรณีการรื้อสะพานข้ามแยกสีมาธานี และก่อสร้างอุโมงค์ทดแทน ที่ต้องใช้เวลาในการหาข้อยุติร่วมกับหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่
สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม. แบ่งสร้าง 2 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 นครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กม. ค่าก่อสร้าง 8,198 ล้านบาท มี บจก.เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-31 ม.ค. 2564 (36 เดือน) ขยายสัญญา 20 เดือน (ก.พ. 2564-ก.ย. 2565) ณ เดือน พ.ย. 2564 ผลงานคืบหน้า 95.01% เร็วกว่าแผน 2.13%
สัญญาที่ 2 หนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กม. ค่าก่อสร้าง 7,520 ล้านบาท มี บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้าง เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-31 ม.ค. 2564 (36 เดือน) ขยายสัญญา 20 เดือน (ก.พ. 2564-ก.ย. 2565) ณ เดือน พ.ย.2564 งานคืบหน้า 90.763% เร็วกว่าแผน 0.012%
สายใต้ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. ค่าก่อสร้าง 5,807 ล้านบาท มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-31 ก.ค. 2563 (30 เดือน) ขยายสัญญา 11 เดือน (1 ส.ค. 2563-30 มิ.ย. 2564) และขยายสัญญาครั้งที่ 2 อีก 4 เดือน ไปสิ้นสุดเดือน ต.ค. 2564 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบงาน ซึ่งพบว่าการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ณ เดือน พ.ย. 2564 ผลงานคืบหน้า 99.94% ยังล่าช้า 0.06%
สายใต้ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. แบ่งงานเป็น 2 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กม. ค่าก่อสร้าง 6,465 ล้านบาท มีกิจการร่วมค่า KS-C (เคเอสร่วมค้า /China Railway 11th) เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-31 ต.ค.2563 (33 เดือน) ขยายสัญญา 15 เดือน (1 พ.ย. 2563-31 ม.ค. 2565) ณ เดือน พ.ย. 2564 งานคืบหน้า 83.205% ช้ากว่าแผน 4.690%
สัญญาที่ 2 บางสะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 79 กม. ค่าก่อสร้าง 5,992 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า STTP (ชิโน-ไทย/ไทยพีค่อน) เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 1 ก.พ. 2561-31 ม.ค. 2564 (36 เดือน) ขยายสัญญา 15 เดือน (1 ก.พ. 2564-30 เม.ย. 2565) ณ เดือน พ.ย. 2564 ผลงานคืบหน้า 82.88% ช้ากว่าแผน 10.825%
สำหรับโครงการจัดหาและติดตั้งงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมรถไฟทางคู่ 3 สาย ได้แก่สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 145 กม. ค่าก่อสร้าง 2,988.57 ล้านบาท มีกลุ่มร่วมค้าบีที-ยูเอ็น ประกอบด้วย บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกเนล (ประเทศไทย) จำกัด และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ดำเนินการ ระยะเวลา 39 เดือน เริ่มงานวันที่ 24 ม.ค. 2563 กำหนดแล้วเสร็จเดือน เม.ย. 2566
สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. ค่าก่อสร้าง 2,549.89 ล้านบาท มีกลุ่ม บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และบริษัท LS Industrial Systems หรือ LSIS ประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้ดำเนินการ ระยะเวลา 45 เดือน เริ่มวันที่ 24 ม.ค. 2563 กำหนดเสร็จเดือน ต.ค. 2566
สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 420 กม. ค่าก่อสร้าง 7,384.84 ล้านบาท มี บจ.China Railway Signal & Communication หรือ CRSC จากประเทศจีนเป็นผู้ดำเนินการ ระยะเวลา 36 เดือน เริ่มงานวันที่ 27 ม.ค. 2563 กำหนดเสร็จเดือน ม.ค. 2566
สำหรับบิ๊กโปรเจกต์อย่างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,413 ล้านบาท มีงานโยธาจำนวน 14 สัญญา ค่าก่อสร้าง 117,914.08 ล้านบาท โดยมีสัญญาเดียวที่ก่อสร้างเสร็จคือ สัญญา 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. วงเงิน 362 ล้านบาท
อีก 7 สัญญาอยู่ระหว่างก่อสร้าง ได้แก่ สัญญา 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. วงเงิน 3,114 ล้านบาท มี บจ.ซีวิลคอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักส์ เป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 1 พ.ค. 2562 ก่อสร้าง 540 วัน (สิ้นสุด 21 ต.ค. 2563) ขยายสัญญาถึง 26 พ.ค. 2564 ล่าสุดงานคืบหน้า 76.85% ช้ากว่าแผน 23.15% อุปสรรคขาดแคลนแรงงาน และโควิด-19 อยู่ระหว่างขอต่อสัญญา
สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กม. วงเงิน 4,279 ล้านบาท มี บมจ.เนาวรัตน์ พัฒนาการผู้รับจ้าง เริ่มงาน 19 เม.ย. 2564 สิ้นสุด 3 เม.ย. 2567 คืบหน้า 0.17% ล่าช้า 4.18% อุปสรรคเวนคืนที่ดิน และการขอใช้พื้นที่กรมป่าไม้
สัญญาที่ 3-3 ช่วงบันไดม้า-ลำตะคอง ระยะทาง 21.60 กม. วงเงิน 9,838 ล้านบาท มี บจ.ไทย เอ็นจิเนียร์และอุตสาหกรรมเป็นผู้รับจ้าง เริ่มงาน 19 ก.พ. 2564 สิ้นสุด 4 ก.พ. 2567 คืบหน้า 1.06% ล่าช้า 7.72% อุปสรรคเวนคืนที่ดิน และการขอใช้พื้นที่กรมป่าไม้ กรมชลประทาน และกรมธนารักษ์
สัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และช่วงกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม. วงเงิน 9,848 ล้านบาทมี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ก่อสร้าง เริ่มงาน 26 ม.ค. 2564 สิ้นสุด 31 ม.ค. 2567 คืบหน้า 10.57% เร็วกว่าแผน 3.10%
สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กม. วงเงิน 7,750 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า SPTK จำกัด ก่อสร้าง เริ่มงาน 26 ม.ค. 2564 สิ้นสุด 31 ม.ค. 2567 คืบหน้า 1.823% ล่าช้า 5.74% อุปสรรคเวนคืนที่ดิน
สัญญาที่ 4-3 ช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กม. วงเงิน 11,525 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า CAN (บจ.ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่นฯ, บจ.เอ.เอส.แอส โซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) และ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ เป็นผู้ก่อสร้าง สิ้นสุดสัญญาวันที่ 16 ส.ค. 2567 งานคืบหน้า 0.26% ล่าช้า 1.98%
สัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ระยะทาง 12.99 กม. วงเงิน 8,560 ล้านบาท มี บจ.ซีวิลเอ็นจีเนียริงก่อสร้าง เริ่มงาน 19 ก.พ. 2564 สิ้นสุด 4 ก.พ. 2567 คืบหน้า 7.06% ล่าช้า 0.71%
รอเข้าพื้นที่ 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.80 กม. วงเงิน 10,570 ล้านบาท มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด, สัญญาที่ 4-4 ศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 6,573 ล้านบาท มี บมจ.อิตาเลียนไทย เป็นผู้รับจ้าง, สัญญาที่ 4-6 ช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทางรวม 31.60 กม. วงเงิน 9,428.9 ล้านบาท มี บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง เป็นผู้รับจ้าง
ติดปัญหาปรับแบบสถานีอยุธยา สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. มี บมจ.อิตาเลียนไทยเป็นผู้รับจ้าง และติดฟ้องคัดค้านผลประมูลสัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. ราคากลาง 11,386 ล้านบาท และสัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. มีประเด็นโครงสร้างทับซ้อนกับไฮสปีด 3 สนามบิน
ส่วนสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท รฟท.เซ็นสัญญากับ บจ.ไชน่า เรลเวย์อินเตอร์เนชั่นแนล และบจ.ไชน่าเรลเวย์ ดีไซน์คอร์เปอเรชั่นเมื่อ 28 ต.ค. 2563 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนส่วนที่ 1 คือออกแบบระบบทั้งหมดและขบวนรถไฟ วงเงินประมาณ 700-800 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ลงตัว
ยังเหลือส่วนที่ 2 งานติดตั้ง วงเงิน 40,000 ล้านบาท จะเริ่มได้หลังออกแบบเสร็จ และงานโยธามีความคืบหน้าพอที่จะสามารถส่งมอบพื้นที่ คาดว่าจะออก NTP ให้ในปี 2565 และยังมีงานส่วนที่ 3 งานฝึกอบรมประมาณ 1,000 ล้านบาท มีการจัดตั้งองค์กร บริหารรถไฟความเร็วสูง คาดออก NTP หลังจากนี้ 1-2 ปี
ส่วนรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356.10 กม. มีจำนวน 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี สถานีหนองคาย มีศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) 2 แห่ง ที่นาทา และเชียงรากน้อย มีศูนย์ซ่อมบำรุงทาง (Maintenance Base) 4 แห่ง ที่บ้านมะค่า หนองเม็ก โนนสะอาด และนาทา มีย่านกองเก็บตู้สินค้า (CY) และย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transshipment Yard) 1 แห่งที่นาทา
ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดเพื่อเชื่อมต่อทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เตรียมจัดประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 29 เพื่อหารือร่วมกับฝ่ายจีนในการดำเนินงานในระยะต่อไป
ขณะที่ฝั่ง สปป.ลาวที่เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม สปป.ลาว-จีน ในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งฝั่งไทยยังเชื่อมต่อไม่ได้ จึงทำได้แค่เพียง รฟท.ใช้ปรับแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟ ช่วงหนองคาย-ท่านาแล้ง รองรับปริมาณสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นทางราง
โดยในปี 2564-2565 มีการเพิ่มขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจากเดิมวันละ 4 ขบวน (ไป-กลับ) เป็น 10 ขบวนไป-กลับ พ่วงขบวนละ 25 แคร่ และช่วงในปี 2566-2568 จะปรับเพิ่มขบวนรถขนส่งสินค้าเป็นวันละ 16 ขบวน (ไป-กลับ) และตั้งแต่ปี 2569 จะเพิ่มขบวนรถเป็น 24 ขบวน (ไป-กลับ) ซึ่งไม่รวมขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศที่เดิมปกติมีให้บริการวันละ 4 ขบวน (ไป-กลับ)
ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 2.24 แสนล้านบาท รฟท.ทำสัญญาสัมปทานให้บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ก่อสร้างและบริหาร ซึ่งมีความก้าวหน้าต่อเนื่อง โดยจะทยอยส่งมอบพื้นที่ช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 160 กม. และออก NTP เริ่มงานช่วงเดือน มี.ค. 2565
ส่วนช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง มีกรอบเวลาส่งมอบพื้นที่ภายในปี 2566 เอกชนมีเวลาก่อสร้าง 5 ปี หรือได้นั่งไม่เกินปี 2571 ใกล้เคียงกับไฮสปีดไทย-จีน เรียกว่ามาทีหลัง…แต่ปังกว่า!!!